วันที่ 11-14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
น้ำตกเปรโต๊ะลอซู (Pe To Lo Su Waterfall) จังหวัดตาก












บอกเล่าประสบการณ์
“ไอซ์ ชาญวิทย์ ใจดำรงค์ครับ ปัจจุบันศีกษาอยู่ปี 2คณะวิทยาการจัดการสาขาบริหารธุรกิจเอกการตลาดและการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ สำหรับผมเหตุผลที่ตัดสินใจไปทริปนี้เลยคือเห็นว่าท้าทายที่สุดและคิดว่าจะได้สนิทกับอีกหลายๆคนมากขึ้นครับ ความท้าทายที่ผมเจอหลักๆมี 2 เรื่องคือเรื่องเมารถเพราะจากตากไปอุ้มผางมีโค้งเยอะมากผมแก้ปัญหาโดยกินยาเมารถ นอนหลับ ร้องเพลง เปิดหน้าต่าง ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ไม่ฝืนอาจจะขอแวะ5555 ส่วนอีกเรื่องคือการเดินติดโคลนแล้วทำให้ไปช้า ผมแก้ปัญหาโดยเดินตามคนที่ชำนาญเส้นทางเช่นพี่ลูกหาบครับ การไปรอบนี้สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นบทเรียนที่ดีมากคือการได้ไปกับเพื่อนๆพี่ๆไปกันเป็นทีมดีกว่าไปคนเดียวเพราะรู้สึกสนุก มีอะไรก็ได้ช่วยกัน ได้ให้กำลังใจกัน กับอีกเรื่องที่ได้คือเชื่อในกระบวนการเพราะตอนเริ่มและระหว่างทางเราไม่เห็นเลยว่าปลายทางหรือจุดที่เราจะไปเป็นยังไงแต่มันเป็นเส้นทางที่ถูกต้องเราก็เชื่อและเดินไปจนถึง อยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสประสบการณ์Tozan สักครั้งซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยากที่เราจะได้เก็บความทรงจำ การเรียนรู้ และมิตรภาพในวัยนี้กันครับ”
ไอซ์ ชาญวิทย์
ผู้เข้าร่วม
“ณัฐ โรงเรียนดัดดรุณี เนื่องจากณัฐได้ไปเจอสถานที่นี้ประมาณ 1 เดือน ก่อนประกาศทริปที่เปรโต๊ะ ครัง้แรกที่เห็นสถานที่นี้ณัฐรู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่าสนุกและท้าทายดีถ้าได้ไปสักครั้งในชีวิตก็คงเป็นประสบการณ์ในชีวิต การเอาชนะความกลัวของตัวเองค่ะ ณัฐเป็นคนกลัวความสูงเพราะกลัวตกลงไป ตอนขึ้นดอยมะม่วงสามหมื่นต้องใช้สติ ความพยายาม การควบคุมตัวเองอย่างมากในการผ่านแต่ละก้าวไปได้ ในบางก้าวที่รู้สึกว่าจะไม่ไหวแล้ว แต่เมื่อมองทุกๆคนในทริป ทุกคนกลับมีความตั้งมั่นตั้งใจในการเดินให้ถึงจุดหมาย จากสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ทำให้ณัฐมีกำลังใจในการเดินไปให้ถึงจุดหมายเช่นกัน ในระหว่างการเดินทาง นอกจากการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ (แม้จะไปไม่ถึงยอดดอยมะม่วงสามหมื่น แต่ถึงแค่หมื่นสองเมตรเพราะอันตราย) ณัฐก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการได้อยู่ร่วมกับกลุ่มคนที่มีพลังบวก ช่วยเหลือกัน และหาทางออกร่วมกันเสมอ แม้การเดินป่าจะไกลและชันจนเกิดความปวดเมื่อย แต่ทุกคนก็มุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่ได้รับและการเรียนรู้จากเหตุการณ์ต่างๆ ส่วนความสุขระหว่างการเดินทางอีกอย่างคือการได้นั่งรถไปด้วยกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สนุกและได้แลกเปลี่ยนความรู้ที่หลากหลาย สิ่งที่ทำให้Tozanไม่เหมือนที่อื่นเลย ก็คงเป็นเพราะ”คน”ณัฐรู้สึกว่าคนคือสิ่งที่ทำให้ทริปทริปนึงแตกต่างกัน ณัฐมากับครอบครัวก็จะอีกแบบ ณัฐมากับทัวร์อื่นๆก็้อาจจะเกร็งๆเพราะไม่เคยรู้จักกัน แต่พอเป็นคนในวงนี้กลับสบายใจไม่ใช่แค่ณัฐแต่คนในครอบครัวณัฐก็ไว้ใจ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นไม่กี่วันแต่เวลาไม่กี่วันนี้ทำให้เราเจอคน สถานที่ เหตการณ์ ใหม่ๆที่เปิดโลกณัฐเยอะขึ้นมาก”
ณัฐ ณัฐนันท์พร
★★★★★
“ดีไซน์ มศว ปี 3 ดูใน YouTube แล้วได้เห็นมาว่าเปรโต๊ะลอซูเป็นสถานที่ ที่สวยมาก เส้นทางการเดินมีความท้าทายแต่ก็คิดว่าไม่เกินความสามารถ เลยอยากที่จะมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งนึงในชีวิต การผ่านความท้าทายนั้น จุดที่เรารู้สึกว่าเหนื่อยแล้ว จะทำอย่างไรดี มันไม่มีทางอื่นเลยนอกจากคำว่าไปต่อ ต้องไปต่อเท่านั้น ไม่งั้นก็จะอยู่ในจุดเดิม ให้กำลังใจตัวเอง อีกนิดนึง เอาอีกหน่อย มีทัศนคติที่เป็นบวกตลอดเส้นทาง ไปด้วยความสนุกสนาน ชื่นชมธรรมชาติรอบตัวที่มาจากความสารถของตัวเราที่พาตัวเองมาให้เห็นมันจนได้ สุดท้ายมันก็จะลืมความรู้สึกเหนื่อยไปเลย ความเชื่อมีพลังมากจริง ๆ ในขณะที่กำลังเดินก็รู้สึกว่าเราจะไปถึงจุดนั้นได้จริง ๆ ไหม แต่ก็ด้วยเพื่อนร่วมเดินทาง คนรอบข้างที่คอยให้กำลังใจกัน ช่วยเหลือกันตลอดเส้นทาง รวมถึงตัวเราเองก็เชื่อในตัวเองเหมือนกันว่าเราจะไปถึงมัน เราสามารถทำมันได้ สุดท้ายแล้วเราก็จะไปถึงมันจริง ๆ อยากให้ทุกคนได้ลองไปกัน เป็นอีกโอกาสนึงที่เชื่อได้เลยว่าเป็นประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตของทุกคนแน่ ๆ เรื่องราวระหว่างการเดินที่มีมากมาย หัวเราะด้วยกัน สนุกด้วยกัน ลุ้นไปด้วยกัน ได้ทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำ มิตรภาพระหว่างการเดินทางที่เกิดขึ้นจากผู้คนแปลกหน้า ที่เข้ามาทักทายแล้วได้รู้จักกันนั้นมีความหมายมากจริง ๆ ไม่ลองไม่รู้นะเรื่องแบบนี้ ต้องมาด้วยตัวเองแล้วววว”
ดีไซน์ จิรัญชา
★★★★★
“กร ธรรมศาสตร์ ปี 3 อยากติดตามเรียนรู้และคิดว่าเปรโต๊ะจะได้ประสบการเดินป่าที่หลากหลายทั้งโคลน หิน ดิน น้ำ ฝน หนาว ของพวกเราเยอะกว่าที่คิดจึงต้องมีแบกเองบ้างซึ่งกรแบกไปเองคือ10กว่าโลในการเดิน ซึ่งเดินในโคลนก็ลื่น เดินก็ไกลระดับนึง สิ่งที่ช่วยแก้คือ ทัศนคติที่สร้างสรรค์ รู้สึกสนุกไปกับอุปสรรคนั้นๆ และก้าวไปอย่างมั่นใจเพราะแรกๆก็กลัวเละทำให้เดินไปแบบค่อยเหยียบแต่พอกล้าเดินจริงๆทำให้เดินง่ายขึ้นเยอะเลย ความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์มีผลมากกว่าอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ๆที่พยายามสรรหา มิตินี้กรสะท้อนกับทั้งบิสสิเนสและชีวิตตัวเองที่พยายามอยากหาเครื่องมือที่หลากหลายแต่ไม่พยายามที่จะเชี่ยวชาญในสิ่งๆนั้นจริงๆ กระเปรียบกับลูกหาบที่เดินนำที่เขาใส่แค่รองเท้าแตะช้างดาว แต่ก็สามารถเดินได้อย่างมั่นคงและรวดเร็ว แต่เราที่จัดเด็มแต่ยังไม่มีทักษะนั้นก็ยังลื่นบ้างไรบ้าง ผมว่าเดินป่าปีนเขาทุกๆคนก็สามารถไปเองได้แต่สิ่งที่แตกต่างคือวงสังคมการได้อยู่รอบๆ การที่มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่แม็กและเพื่อนๆแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างแล้วเราจะได้เห็นสันดารกันจริงๆเช่นเวลาเหนื่อยโคตรๆเราจะอารมเสียใส่กันมั้ย หรือเราจะดีลกับปัญหาต่างๆที่เจอกันอย่างไร และแน่นอนว่าสนุกกก็เป็นสิ่งที่ได้มาด้วยแน่นอนขอบอกเลยว่าใครที่กำลังลังเลอยู่คุณพลาดละ สิ่งที่ทำให้กรเดินช้ากว่าจะถึงจุดหมายตอนเดินป่าคือมัวแต่เลือกทางและะเลือกทางที่ผิด แต่กรขอบอกเลยว่าการไปโทซังเป็นเส้นทางที่เดินง่ายและทำให้ถึงเป้าหมายได้ไวขึ้นอย่างแน่นอน และขอบอกเลยว่ารูปต่างๆที่เราได้ดูเทียบไม่ได้เลยกับการที่เอาตาเราไปดูเอง สิ่งที่เราฝันไม่สามารถเกินกว่าสิ่งที่เราเคยเห็นเอาตัวเองไปเปิดประสบการณ์กันนะคับบ”
กร รงคกร
★★★★★
“สวัสดีค่าา ซือหลิน ปภาดา ตันติยานนท์ กำลังขึ้นปี 3 พาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะะ ต้องบอกว่าปกติไม่ใช่คนที่ชอบความยากลำบาก ตั้งแต่ภูกระดึงก็คิดไว้แล้วว่าคงจะไม่มาเปรโต๊ะ แต่สุดท้ายพอถึงเวลาก็เปลี่ยนใจ และตัดสินใจมา เพราะก็อยากจะท้าทายศักยภาพตัวเองเหมือนกัน บวกกับอยากจะรู้ว่าไอที่ว่ายากเนี่ยจะยากขนาดไหนกัน พอตัดสินใจมาก็บอกเลยว่าสะกดคำว่า “สบาย” ไม่เป็นจริงๆค่ะ ท้าทายตั้งแต่การเดินทาง ต้องผ่านถึง 1,219 โค้ง ไปถึงแล้วยังต้องนั่งรถต่ออีก 2 ชั่วโมง เมื่อเริ่มเดิน คือไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่านี่คือมาถูกทางแล้วจริงๆ หรอ ทำใจไม่ได้ที่จะเลอะตั้งแต่ทางเข้า จนสุดท้ายก็ต้องฮึบ และเลอะจนได้ ทั้งโคลน ทั้งน้ำ เละเทะไปเกินครึ่งแข้งเป็นเรื่องจริง ไต่เชือกบนหินที่ลื่นๆก็เกิดขึ้นแล้ว ถ้ามัวแต่กล้าๆ กลัวๆ ก็คงหยุดอยู่ที่เดิม ในขณะที่คนอื่นๆ ก็เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ เพราะงั้น ฮึบเดียว แล้วเอาให้ผ่านจุดนั้น ข้างหน้ายังมีอะไรรออยู่อีกมากมายย! เป็นทริปที่โหดมันส์ฮา ครบรสมากๆ ค่ะะ ใครที่ยังไม่เคยมาบอกเลยว่า ส่วนตัวคือถ้าไม่มากับวงนี้ก็ไม่รู้จะมากับใครแล้ว ถึงไหนถึงกันมาก ต้องลองด้วยตัวเองค่ะะะ”
ซือหลิน ปภาดา
★★★★★
“แทมมี่ มศว ปี2 ตัดสินใจมาทริปโทซังเปรโต๊ะลอซูเพราะกะว่าจะมาเก็บประสบการณ์ใหม่ๆ แทมมี่ไม่เคยคิดเลยว่าถ้ามาเที่ยวในสไตล์ตัวเอง จะได้มาเดินป่าหรือปีนเขาแบบนี้ ทริปนี้เลยเป็นทริปที่จะได้ค้นหาตัวเองเพิ่มพร้อมกับติดตามเรียนรู้ไปด้วย ตั้งแต่แรกที่ได้ยินความโหดระดับตัวท็อปของเปรโต๊ะลอซูมา แทมมี่เตรียมใจมาเยอะมากตั้งแต่แรกว่าคงไม่ได้นั่งๆเดินๆแบบสบาย และก็เป็นความจริง ระหว่างการเดินทางมีคอนเท้นต์เกิดขึ้นเยอะมาก แต่เพื่อนร่วมทริปทุกคนรวมถึงแทมมี่ก็มีความสุขที่ได้ก้าวผ่านมันมาด้วยกัน ถ้าท้าทายมากที่สุดก็น่าจะตอนเดินไปแคมป์ที่พักและตอนเดินขึ้นดอย จุดล่างสุดถึงจุดบนสุดมีตั้งแต่จมโคลนไปครึ่งขาจนไปถึงปีนเชือกทางหินเรียบๆตอนฝนตก บอกเลยว่าลื่นกันถ้วนหน้า555 แต่ที่เราทุกคนผ่านมาได้ก็เพราะมีกันและกัน ไม่ว่าจะเดินช้าหรือเดินเร็ว ทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือกันและกันเสมอ “If you want to go fast, go alone. If you want to go far, go together” เป็นคำนี้เลยจริงๆ และอีกสิ่งที่เป็นบทเรียนสำคัญกับแทมมี่มากๆ ก็คือถ้าเราถอยตอนที่ยังไม่ได้ลองไปให้สุดทาง เราจะไม่มีโอกาสได้เห็นวิวอันสวยงามที่รอเราอยู่เลย คือจิตใจเราเท่านั้นที่จะพาเราให้ไปให้ถึงได้ ไม่ว่าคนรอบข้างจะพูดเชียร์เราขนาดไหน ถ้าเราไม่ตัดสินใจทำให้มันเกิดขึ้น มันก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ทริปนี้แทมมี่ดีใจมากๆที่แทมมี่ตัดสินใจทำให้มันเกิดขึ้น และได้ขึ้นไปชมน้ำตกปิตุ๊โกรและยอดดอยมะม่วงหมื่นสองกับทุกๆคน ทั้งนี้บอกเลยว่าทริปโทซังจะทำให้ทุกคนรู้จักตัวเองและคนอื่นมากขึ้นแบบ1000% ได้มาติดตามเรียนรู้แนวคิด ทัศนคติและความเป็นผู้นำ และที่สำคัญที่สุดเลยคือได้ใช้เวลาแบบสนุกสนานและมีความสุขไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นต้องรอติดตามเลยว่าทริปหน้าจะไปที่ไหน จะเป็นอย่างไร แบบห้ามพลาด!!!!”
แทมมี่ ปัณณลักษณ์
★★★★★
“นินะคะ ฐานิภา เดชสุรางค์ เรียน food innovation ธรรมศาสตร์ ปี3 ค่า ถ้าถามถึงเหตุผลที่ไป คงต้องบอกว่าไม่มีเหตุผลไหนที่จะไม่ไป เดินป่าทริปที่ 2 ของชีวิต ยากลำบากกว่าที่คิดตั้งแต่ทางถนนจนทางเดินป่า55555555 ขาที่ก้าวลงไปในโคลนแต่ละก้าวเหมือนเล่นเกมสุ่มว่าโคลนจะอยู่แค่ข้อเท้าหรือจะจมถึงข้อเข่า ได้คุยกับพี่เจ้าของแคมป์ พี่เค้าบอกว่าเดินขึ้นถึงแคมป์ใช้ 3 ชั่วโมง จะถึงด่านเก็บตั๋วใช้ชั่วโมงครึ่ง แต่ด้วยรอบนี้ทุกคนล่วงหน้าไปแล้วแต่ตั๋วเข้ายังอยู่ที่นิ เราก็ย่ำเท้าด้วยความมั่นใจทุกก้าว สรุปใช้เวลาเดินขึ้นถึงแคมป์แค่ 2 ชั่วโมง ความเชื่อว่าเราจะไปถึงสำคัญจริงๆเพราะทำให้เราเกิดพลังมากมายอย่างที่เราก็ไม่คาดคิด ไปโทซังสักครั้งในชีวิตแล้วจะติดใจจนอยากจะกลับมาอีกแน่นอน!!“
นิ ฐานิภา
★★★★★
“โยดา มหิดล ปี 2 ตัดสินใจโยนตัวเองเข้าสู่ความท้าทายครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความยากของการปีนอยู่ระดับ 3 แต่วัดใจตัวเองว่าจะมีใจไปให้สุดแค่ไหน ทุกย่างก้าวตั้งแต่โคลนดูดรองเท้าจนถึงหน้าผาหินตอนฝนตก แต่ท่ามกลางความท้าทาย กลับได้สัมผัสความสงบจากธรรมชาติรอบข้างที่เป็นกำลังใจ เพราะหันหลังกลับไปก็ท้าทายพอกัน เลยเลือกเชื่อใจรองเท้าและการวางเท้า และใส่ใจคนข้างหลังตอนจับเชือกเส้นเดียวกัน ตระหนักว่าทุกก้าวที่เดินขึ้นไป มาจากพลังของตัวเราเองล้วนๆ ดีใจที่เห็นทุกคนเดินมาถึงและแวะรวมตัวกันตลอดทาง ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นว่า ก้าวเล็กๆ ทีละก้าว พาเราขึ้นถึงยอดเขาได้ และจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง คือการได้เดินตามหลัง ‘พี่แม็ก’ นอกจากในการทำงานและในบทบาท เราได้เห็นเขาในฐานะ มนุษย์คนหนึ่งที่กำลังยกระดับจิตใจตัวเองตลอดเวลา เดินตามติดๆเห็นพี่แม็กก้าวขาต่อเนื่อง และเลือกพักเป็นหลักเป็นแหล่ง ไปเรื่อยๆแต่ไปไม่หยุด สะท้อนความคิดของพี่แม็ก เหมือนในใจมั่นคงว่าจะก้าวต่อ เหมือนมีธงปักอยู่ในใจว่า ยังไงก็ต้องไปให้ถึง พี่แม็กเป็นให้เราเห็น การ ‘ทำถึง’ เพื่อประสบความสำเร็จในชีวิต ตอนเดินบนทางชันเรื่อยๆ แล้วนานเกินอึดใจกว่าจะมีจุดให้ยืนพักเป็นแนวราบ จังหวะนั้นรู้เลยว่า เดินป่าชัน ต้องใช้ใจเดิน เกิดจุดมุ่งหมายในใจว่า ฐานใจที่ ‘อึด ถึก ทน’ มันต้องต่อเนื่องและยาวนาน เราต้องศึกษา สะสมจนเข้าใจให้กว้างและลึกในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่เชื่อ เพราะการได้เห็นรอบด้าน เราจะเลือก “ทำสิ่งที่ส่งผลต่อความสำเร็จทุกวัน” จนเป็นอุปนิสัย เป็น 3 คืน 4 วันสั้นๆ ที่รู้สึกเหมือนยาวนาน เพราะเดินกับผู้นำทางจิตวิญญาณ ความลำบากกายที่เข้ามาขัดเกลาจิตใจ ไม่มีอุปสรรคไหนที่ไม่มีทางออกจริงๆ รู้สึกอยากกลับไปอีกครั้งเมื่อรับผิดชอบชีวิตเสร็จใน 2 ปี”
โยดา ชมภูเทียนทิพย์
★★★★★
“ซูน่า ธรรมศาสตร์ ปี 3 ตัดสินใจไปเพราะอยากท้าทายตัวเอง ฟังคำรีวิวแล้วดูโหด ดูน่าสนุก (แบบโคลนๆเละๆ) พอไปก็ตามคาด เละจริง ท้าทายที่สุดคือตอนเดินฝ่าโคลนขึ้นไปข้างบน จะมองว่ามันไม่สนุกก็มองได้ แต่ถ้ามองว่ามันท้าทายตัวเองมันก็จะสนุก และภูมิใจเมื่อขึ้นไปถึง บทเรียนที่ได้มากที่สุดไม่ใช่อะไรนอกตัว แต่ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นผ่านการปีนเขา ได้ลองสังเกตความคิดตัวเองเวลาเจอจุดที่ยาก จุดที่ง่าย จุดที่เพื่อนนำไปหมดแล้ว จุดที่อยู่กับเพื่อน สิ่งที่เราคิด ณ ตอนนั้นก็สะท้อนทัศนคติตัวเองต่อความ-ง่ายยาก เป็นจุดที่ประทับใจมากที่สุด อยากเชิญชวนให้ทุกคนมาลองสักครั้ง!”
ซูน่า ณภัทร
★★★★★










